ขึ้นชื่อว่า “คู่ชีวิต” ไม่ว่าจะอยู่ในยามสุขสบายหรือภาวะเจ็บป่วย ล้วนแล้วจะต้องอยู่เคียงข้างกันจึงเรียกกันและกันได้เต็มปากว่า “คู่ชีวิต” ในกรณีของสามีภรรยาคู่นี้ก็เช่นกัน สามีต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการเจ็บป่วยรุมเร้าอยู่หลายโรคด้วยกัน เริ่มตั้งแต่วัณโรคปอดที่ต้องรักษาอย่างต่อเนื่องถึง 6 เดือน เมื่อรักษาหายแล้วแต่ก็ต้องมาเป็นโรคลำไส้อักเสบ มีอาการถ่ายเป็นเลือดโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ดูเหมือนโรคร้ายไม่ได้ปรานีสามีของคุณสรณ์สิรินัก เพราะต่อมาก็พบว่าเป็นมะเร็ง ไทรอยด์อีก ต้องเข้ารับการผ่าตัด และพบหมอเพื่อดูอาการทุก 3 เดือนและ 6 เดือน
“สามีดิฉันได้ไปปรึกษากับแพทย์แผนจีน และได้รับคำตอบว่าเลือดข้น เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้ง่าย ดิฉันจึงตัดสินใจซื้อเครื่องน้ำแอคทิเวท ไม่ใช่เพื่อตัวดิฉันเอง แต่เพื่อสามีซึ่งเป็นหลายโรค โรคนี้หายโรคนั้นเป็นต่อ ตอนนี้หายเป็นปกติแล้ว น้ำแอคทิเวท จึงเป็นทางเลือกของครอบครัวดิฉัน”
เมื่อ พ.ศ.2548 คุณสรณ์สิริย่างเข้าสู่วัยกลางคนได้เริ่มวางแผนที่จะทำประกันชีวิต และโดยทั่วไปการทำประกันจะต้องตรวจสุขภาพ แต่ผลการตรวจปรากฏว่ามีความผิดปกติเกี่ยวกับหัวใจ แพทย์ประจำบริษัทประกันได้แนะนำให้ไปพบแพทย์เฉพาะทางด้านหัวใจ แต่แพทย์เฉพาะทางตรวจแล้วผลออกมากลับปรากฏว่าไม่มีความผิดปกติของหัวใจ เมื่อผลการตรวจของแพทย์จากสองสถาบันมีความขัดแย้งกันทำให้คนป่วยอย่างคุณสรณ์สิริไม่รู้จะทำอย่างไรเช่นกัน
“ตอนนี้ดิฉันก็มีอาการเจ็บแปลบๆ ที่หัวใจบ้างเป็นบางครั้งบางคราว คล้ายกับว่าเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่คล่อง ดิฉันจึงออกกำลังกาย และดื่มน้ำแอคทิเวท เป็นประจำ อาการเจ็บหัวใจแปลบๆ หายไปตอนไหนก็ไม่รู้ ต่อมาด้วยการงานของดิฉันทำให้ไม่มีเวลาออกกำลังกายแต่ก็ยังคงดื่มน้ำแอคทิเวท เหมือนเดิม น่าแปลกมากที่ไม่มีอาการเจ็บแปลบๆ ดิฉันจึงเริ่มทดลองด้วยการหยุดทั้งการออกกำลังกายและหยุดดื่มน้ำแอคทิเวท ปรากฏว่า 3 เดือนต่อมา อาการเจ็บแปลบๆ ก็กลับมาอีก ดิฉันจึงไม่กล้าหยุดดื่มน้ำแอคทิเวท อีกเลย และนำติดตัวไปด้วยเมื่อต้องเดินทางไปไหน”
ที่ราชบุรีน้องชายของคุณสรณ์สิริถูกไฟฟ้าแรงสูงช็อตหมดสติ ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่เดือนกว่าแถมยังต้องตัดนิ้วมือ และนิ้วเท้าบางส่วน แผลที่ผิวหนังที่เกิดจากไฟฟ้าช็อตก็เริ่มแฉะ ทำให้เพิ่มความทรมานมากยิ่งขึ้น คุณสรณ์สิริจึงให้น้องชายได้ดื่มน้ำแอคทิเวท แบบเดียวกับครอบครัวน้ำดื่มแอคทิเวท อื่นๆ ดูบ้าง
“ตอนนั้นดิฉันนึกถึงน้ำแอคทิเวท ขึ้นมาทันทีที่รู้ว่าน้องถูกไฟฟ้าแรงสูงช็อต และเมื่อยิ่งรู้ว่าแผลเขาเริ่มแฉะก็มานึกได้ว่าเคยดูวีซีดีของน้ำแอคทิเวท เกี่ยวกับผู้ป่วยที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน เมื่อคนเป็นโรคนี้ดื่มน้ำแอคทิเวท แล้วได้ผลดี ดิฉันจึงตั้งใจทำน้ำแอคทิเวท ทีละลิตรๆ จนเป็นแกลลอนใหญ่ส่งไปให้น้องชายดื่มเป็นประจำพร้อมกับกินยา และเมื่อน้องชายได้ดื่มน้ำแอคทิเวท ไป 3 เดือน จากที่เป็นแผลแฉะๆ ก็หายเรียบร้อย”
ไฟฟ้าแรงสูงช็อตหมดสติ
ผู้เล่าเรื่อง สรณ์สิริ
อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว
